1. ควรเลือกใช้ฟิวส์ที่สามารถทนกระไฟฟ้าสูงสุดได้มากกว่ากระไฟฟ้าสูงสุดที่ใช้จริงในบ้านเล็ก
น้อย เช่น เมื่อคำนวณจากเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเเล้วปรากฎว่ากระเเสไฟฟ้าที่ใช้อยู่ที่ 22A เเต่เนื่อง
จากฟิวส์มีขนาดให้เลือกคือ 20A เเละ 25A ดังนั้นเราควรเลือกใช้ฟิวส์ขนาด 25A เป็นต้น
2. ควรคำนึงถึงอุณหภูมิของสถานที่ ที่จะนำฟิวส์ไปใช้งานด้วยเพราะฟิวส์ขนาดเดียวกันจะขาด
ง่ายกว่าในที่ที่อุณหภูมิ ดังนั้นในที่ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 25 ํ C (อุณหภูมิปกติในห้อง) เราควรเลือกขนาด
ฟิวส์สูงกว่าปกติเเละในที่ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 ํC เราก็ควรเลือกฟิวส์สี่มีขนาดต่ำกว่าปกติเช่นเดียวกัน
โดยที่อุณหภูมิปกติควรเลือกใช้ฟิวส์ที่มีขนาดสูงกว่าปกติ 135 % เเละทุกๆอุณหภูมิ 20 ํC ที่สูงหรือ
ต่ำกว่าอุณหภูมิห้องควรเลือกฟิวส์ที่มีขนาดเพิ่มขึ้นหรือลดลง 10-15 % ดังนี้
> ที่อุณหภูมิห้อง 25 ํC ค่ากระเเสไฟในระบบเท่ากับ 10A ค่ากระเเสไฟที่ต้องการคือ
135% x 10A = 13.5 A ซึ่งตามขนาดมาตรฐานของฟิวส์ถัดไปที่ควรเลือกคือ 15 A
> ที่อุณหภูมิห้อง 45 ํ C ค่ากระเเสไฟในระบบเท่ากับ 10A ต้องเพิ่มขนาดฟิวส์ขึ้นประมาณ 20%
ดังนั้นค่ากระเเสไฟที่ต้องการคือ 135% x10A x 120% = 16.2 A ซึ่งตามขนาดมาตรฐานของฟิวส์ถัด
ไปที่ควรเลือกคือ 20A
3. ไม่ควรใช้ลวดเหล็กหรือลวดทองเเดงที่มีจุดหลอมเหลวสูงเเทนฟิวส์เพราะเมื่อกระเเสไฟฟ้า
ไหลผ่านมากเกินไป ลวดเหล็กหรือลวดทองเเดงจะไม่หลอมละลาย จึงไม่ได้ช่วยในการตัดวงจรไฟฟ้า
ในบ้าน
4. เพื่อความปลอดภัยที่สูงขึ้นควรติดตั้งฟิวส์ร่วมกับเบรคเกอร์ โดยให้เลือกฟิวส์ที่ทนค่ากระเเสไฟ
สูงกว่าเบรคเกอร์เล็กน้อยเพื่อให้เบรคเกอร์ทำการตัดวงจรก่อนที่ค่ากระเเสไฟต่ำเเต่ถ้าเบรคเกอร์ไม่ทำ
งานฟิวส์ก็จะทำหน้าที่ตัดวงจรเองที่กระเเสไฟสุง
5. ควรเลือกประเภทของฟิวส์ให้เหมาะสมกับความต้องการในเเต่ละงานเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความ
ปลอดภัยเเละประสิทธิภาพสูงสุด เช่น ในการติดตั้งกับมอเตอร์ควรเลือกใช้ประเภท Time-Delay
Fuses (ฟิวส์ประเภทหน่วงเวลา) เพราะมอเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่มักเกิดกระเเสเกินชั่วขณะเมื่อสตาร์ทจึงต้องการ
ฟิวส์ประเภทที่ตัดวงจรช้า เป็นต้น
6. ฟิวส์เเต่ละประเภทมีมาตรฐานการผลิตที่เเตกต่างกัน เช่น ฟิวส์ยุโรปฟิวส์อเมริกาเเละไม่
สามารถใช้เเทนกันได้